“ทำให้ดีขึ้นถ้าเป็นไปได้ และมันก็เป็นไปได้ซะทุกที” (Do better if possiblend it is always possible) เป็นเหมือนปรัชญาที่สืบทอดจิตวิญญาณของช่างทำนาฬิกา ในการประดิษฐ์นาฬิกาคุณภาพเลิศจากรุ่นสู่รุ่น จากอดีตสู่ปัจจุบัน ‘วาเชอรอง คอนสแตนติน’ (Vacheron Constantin) จิตวิญญาณนิรันดร์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ในปี 1755 ปีทองส่องประกายสว่างไสว เป็นปีที่นักประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาระดับปรมาจารย์ ฌอง มาร์ค วาเชอรอง ซึ่งถือเป็นบุคคลแห่งประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของวงการนาฬิกาให้กำเนิดแบรนด์ Vacheron ขึ้น และยืนหยัดยาวนานที่สุดในโลกของเรือนบอกเวลามาจนถึงปัจจุบัน
Vacheron Constantin ‘Saint Gervais’
ในปี 1819 การพบกันของสองผู้ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งเรือนบอกเวลาสวิตเซอร์แลนด์ – ฌาค บาเธอเลมี คอนสแตนติน (Jaques-Barthelemy Constantin) และ Jean-Marc Vacheron พลังมหาศาลของทั้งคู่ร่วมกันผลักดันและพัฒนาจนแบรนด์ดังแบรนด์นี้สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำด้านเทคนิคแห่งวิทยาการนาฬิกาโลกได้สำเร็จ
หลักพื้นฐาน 3 ประการที่ทำให้ Vacheron Constantin สามารถครองความยิ่งใหญ่ในโลกนาฬิกาได้จวบถึงปัจจุบันนี้ คือ
‘เทคนิค’ (Technique) (การผสมผสานระหว่างความรู้ วิธีการประดิษฐ์นาฬิกาแบบดั้งเดิมเข้ากับวิทยาการเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้นาฬิกาของ Vacheron Constantin เป็นแบรนด์ที่เดินทางจากความเรียบง่ายของเครื่องบอกเวลามาสู่จุดสูงสุดของความเป็นนาฬิกาแบบมีกลไลซับซ้อนที่สุด
‘ความงาม'( Aesthetic)( Vacheron Constantin ความล้ำสมัยในการออกแบบของนาฬิกาแบรนด์นี้ไม่เคยหยุดค้นคิดสิ่งใหม่ จากจินตนาการและแรงบันดาลใจถ่ายทอดสู่ภาคความเป็นจริงแห่งดีไซน์ ทำให้ Vacheron เป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่ยากจะหาใครเทียบเคียงได้
‘ความสมบูรณ์ของนาฬิกา’ (Finishing) (ความชำนาญด้านการประกอบและการขึ้นรูปสำเร็จของนาฬิกาเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Vacheron Constantin เป็นที่จดจำของเหล่านักสะสมนาฬิกาจนสามารถพูดได้ว่าความสมบูรณ์แบบของนาฬิกาแบรนด์นี้ไม่เป็นสองรองใครในโลกนาฬิกา
Royal Eagle Chronograph
อุปสรรคขวากหนามต่างๆตลอดเส้นทางสู่ความเป็นสุดยอดของนาฬิกาโลกคงไม่ใช่เส้นทางแห่งฟ้าหลังฝนที่จะสามารถข้ามพ้นไปได้ง่ายๆ แต่ด้วยความอดทนและความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ดั้งเดิมของความเป็น Vacheron Constantin จะเป็นตัวผลักดันให้นาฬิกาแบรนด์นี้ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นจ้าวแห่งเรือนบอกเวลาโลกได้อย่างแน่นอน