กล่าวกันในแวดวงนาฬิกาว่า Rolex คือ Mercedez Benz ส่วน Patek Philippe นั้นคือ Rolls Royce แห่งวงการ
ซึ่ง ณ วันนี้หลายคนคงกล้าพูดได้อย่างเต็มปาก ถึงความเป็นสุดยอดแบรนด์ระดับโลกที่ Patek Philippe สามารถ
พัฒนาตนเองสู่ความเป็นผู้นำระดับแถวหน้าได้อย่างน่าภาคภูมิ เป็นที่ยอมรับของบุคคลชั้นสูงทุกวงการ
นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของสถิติการประมูลนาฬิกาที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่น นาฬิกาพกหายากเรือนหนึ่งสามารถ
เข้าไปบันทึกอยู่ใน Guiness Book ด้วยราคาประมูลถึง 11,002,500 USD
ย้อนกลับไปถึงประวัติความเป็นมาของนาฬิกา Patek Philippe ซึ่งมีเรื่องราวให้กล่าวขานถึงมากมายถึงความสำเร็จ
ที่มีประวัติอันยาวนานและยังเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่มคนรักนาฬิกาเท่านั้น โดยบริษัทแห่งนี้ก่อตั้ง
ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1839 โดย อังตวน นอร์เบิร์ต เดอ ปาเต็ก (Antoine Norbert de Patek) กับช่างทำนาฬิกามากความสามารถ ฟรองซัวส์ ซีซาเป็ค (Francois Czapek) ก่อตั้งบริษัท ปาเต็ก, ซีซาเป็ค แอนด์ ซี. Patek,Czapek & Cie.
ในช่วงนั้น โดยมุ่งเน้นรังสรรค์และผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงออกมาโดยมียอดการผลิตอยู่ที่ประมาณปีละ 200 เรือน หลังจากนั้นเพียง 6 ปี Czapek ได้ตัดสินใจแยกตัวออกไป และในปี ค.ศ. 1844 Patek จึงได้มีโอกาสพบกับช่างทำนาฬิกาอีกท่านหนึ่งนามว่า Jean-Adrien Philippe ซึ่งจากจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่างคนสองคนที่มีอุดมการณ์สอดคล้องกัน
สำหรับ Jean-Adrien Philippe นับว่าเป็นช่างนาฬิกาผู้มีพรสวรรค์ในการประดิษฐ์คิดค้นระบบต่างๆ ของกลไกในเครื่องนาฬิกา ได้สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากให้กับบริษัทโดยคิดค้นระบบไขลานและตั้งเวลาของนาฬิกาโดยใช้เม็ดมะยมแทนกุญแจในแบบดั้งเดิม
ในปี 1851 ชื่อเสียงของ Patek Philippe เริ่มขจรขจาย จากงาน The Great Exhibition ใน London ซึ่งในครั้งนั้นนาฬิกาที่ไม่ต้องใช้กุญแจไขลานเรือนแรกที่นำออกแสดง ได้รับความชื่นชมจาก Queen Victoria อย่างมาก จนเป็นหนึ่งในลูกค้าอันเหนียวแน่น ลูกค้าระดับบิ๊กเนมของ Patek Philippe ไม่เว้นแม้แต่นักวิทยาศาสตร์นามอุโฆษอย่าง ไอน์สไตน์ รวมถึง แมรี่ คูรี่ย์ อีกด้วย
ในปี 1929 บริษัท Patek Philippe ได้ถูกซื้อกิจการไปโดยครอบครัว Stern ซึ่งยังคงเป็นครอบครัวที่ดำเนินกิจการของ
แบรนด์เครื่องบอกเวลาชื่อดังระดับโลก อย่าง Patek Philippe ตราบจนทุกวันนี้ และสิ่งที่ทำให้ Patek Philippe ยืนเป็น
อันดับหนึ่งได้อย่างมั่นคงก็คือ ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งพิสูจน์ได้จากรางวัลต่าง ๆ และสิทธิบัตรมากมายกว่า 100 ปีที่ได้รับ และการยืนหยัดในปรัชญาการทำงานทุกอย่างให้มีคุณภาพอย่างที่สุดโดยไม่หวั่นไหวไปตามกระแส จึงทำให้สถานะของ Patek Philippe เป็นมรดกอันมีค่าจากรุ่นสู่รุ่น